มีหลากหลายอาชีพในสังคมที่ต้องผลัดกันทำงานอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นอาชีพสายบริการ เช่น พนักงานโรงแรม แพทย์ พยาบาล ตำรวจ หรืออาชีพสายอื่น ๆ เช่น พนักงานโรงงานอุตสาหกรรม นักจัดรายการวิทยุ ฯลฯ ทำให้เกิดรูปแบบการทำงานที่เรียกว่า "การทำงานเป็นกะ" ขึ้น มีทั้งกะเช้า กะบ่าย กะดึก หรือบางคนอาจต้องทำหลายกะหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าการทำงานแบบนี้ย่อมต้องส่งผลต่อนาฬิกาชีวิตของคนคนนั้นอย่างแน่นอน ถ้าหากไม่ดูแลร่างกายให้ดี สุขภาพก็จะทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว คราวนี้ลองมาดูเทคนิคที่จะช่วยให้มนุษย์กะทั้งหลายจัดการชีวิตได้ดีขึ้นกัน
เทคนิคการกิน
มนุษย์กะบ่ายและกะดึก ที่ต้องทำงานค่อนคืนหรือทั้งคืนอาจต้องทนกับอาการหิวระหว่างทำงาน จะทานอะไรก็กลัวว่าจะผิดเวลา หรือห่วงอ้วนต่าง ๆ นานา ลองทำตามเทคนิคด้านล่างนี้ดูสิ
สำหรับมนุษย์กะบ่าย ที่ต้องเริ่มทำงานตั้งแต่ช่วงบ่าย และเลิกงานกลางดึก ให้ทานมื้อหนักก่อนเข้างาน ถ้าหิวระหว่างงานให้ทานผลไม้หรือขนมปังกรอบ และทานอีกเล็กน้อยหลังเลิกงาน
มนุษย์กะดึก ควรทานมื้อเล็ก ๆ ก่อนเข้างาน ระหว่างงานทานได้เหมือนกะบ่าย และให้ทานมื้อใหญ่เป็นมื้อเช้าไปเลย
หลีกเลี่ยงการทานของหวาน ของมันเพื่อแก้ง่วง หากทานจนติดเป็นนิสัยอาจได้โรคร้ายตามมา และเลี่ยงการทานอาหารที่ย่อยยากซึ่งจะส่งผลต่อการนอนได้
เครื่องดื่มคาเฟอีนต่าง ๆ ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง แต่หากต้องดื่มจริง ๆ ก็ให้ดื่มก่อนเข้างานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ช่วงเวลา 8 ชั่วโมงก่อนเข้านอนให้งดกาเฟอีนเพื่อป้องกันอาการนอนไม่หลับ
เทคนิคการนอน
เรื่องนอนเป็นเรื่องใหญ่ของคนที่ทำงานเป็นกะทั้งหลาย ไหนจะนาฬิกาชีวิตที่ไม่ตรงกับคนอื่น ไหนจะการนอนไม่หลับในตอนกลางวัน ยิ่งบางคนต้องเปลี่ยนกะไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งปรับตัวได้ลำบาก
เมื่อถึงเวลาพักผ่อนก็ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรเอาเวลาไปเที่ยวเล่นหรือปาร์ตี้ เพราะถ้าหากง่วงจนหลับในในเวลางานอาจเกิดอุบัติเหตุ หรือทำงานผิดพลาดได้
ก่อนเข้านอนอาจอาบน้ำให้สบายตัว อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง เพื่อสร้างความผ่อนคลายจากการทำงาน เตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดพักผ่อนอย่างแท้จริง
หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดระหว่างทางกลับบ้าน วิธีนี้จะทำให้คุณนอนหลับง่ายขึ้น เพราะแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นสมองให้เรารู้สึกไม่ง่วงนอน แนะนำให้ใส่แว่นกันแดดระหว่างเดินทาง
ป้องกันตัวเองจากการถูกรบกวนระหว่างนอนหลับด้วยการติดตั้งผ้าม่านหนาทึบกันแสงแดดส่อง และปิดโทรศัพท์มือถือ
เทคนิคการปรับตัวเข้าสังคม
เพราะการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกับคนอื่น อาจทำให้มนุษย์กะทั้งหลายมีปัญหากับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรักได้
พยายามจัดตารางชีวิต ใช้เวลาว่างที่มีให้ตรงกันกับคนรอบข้าง อาจเลือกกิจกรรมที่ทำได้ตลอดเวลา เช่น ดูหนัง เล่นเกม หรือทานข้าว
หาเวลาช่วยเหลืองานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ล้างจาน รดน้ำต้นไม้ อย่าให้เขาว่าได้ว่าเอาแต่ทำงานข้างนอก ไม่สนใจงานในบ้าน
เข้าสังคมเมื่ออยู่ในที่ทำงานบ้าง เพราะพวกเขาคือเพื่อนที่มีนาฬิกาชีวิตเหมือนกันกับคุณ
ชวนคนใกล้ตัวออกกำลังกายด้วยกัน เพื่อคุณจะได้ใช้เวลากับคนรอบข้างพร้อม ๆ กับดูแลสุขภาพไปด้วย
Did You Know?
การงีบสั้น ๆ เป็นเวลา 15-30 นาที ก่อนเข้าทำงาน หรือในเวลาพัก จะช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่าขึ้น แต่หากงีบนานกว่านั้นจะได้อาการมึน ๆ เบลอ ๆ มาแทน
ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไปไม่ควรทำงานเป็นกะ เพราะสุขภาพจะทรุดโทรมได้มากกว่าคนหนุ่มสาว
ที่มา www.kapook.com
3/15/2558
เทคนิคการดูแลสุขภาพในที่ทำงาน
การมีสุขภาพที่ดี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้หน้าที่การงานของท่านดีขึ้น เรามาดูกันว่าการดูแลสุขภาพ ในที่ทำงานนั้นควรทำอย่างไรบ้าง
1. ล้างมือบ่อยๆ
ล้างมือบ่อยๆ หมายถึงการล้างมือทุกครั้งหลังจากเข้าห้องน้ำ ก่อนรับประทานอาหารเที่ยง หรือในเวลาที่มือของท่านเปื้อนสิ่งต่างๆจากการทำงาน และควรมีเจลล้างมือติดไว้ที่โต๊ะของท่านเพื่อใช้ในการทำความสะอาดมือ
2. ทำความสะอาดโต๊ะทำงานและอุปกรณ์ต่างๆเป็นประจำ
การทำความสะอาดโทรศัพท์, คอมพิวเตอร์, คีย์บอร์ดและสิ่งของต่างๆบนโต๊ะทำงานของท่าน รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ท่านใช้ เป็นการฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆที่สะสมอยู่บนอุปกรณ์เหล่านั้น
3. รับประทานอาหารครบ 3 มื้อ
อาหารเช้าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกๆคน ผู้ที่ต้องรีบตื่นมาทำงานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรับประทานอาหารเช้า ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงการอดอาหารเช้าเพื่อลดน้ำหนักก็เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ควรจัดหาเมนูอาหารเช้าง่ายๆที่ท่านรับประทานได้สะดวก เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารชดเชยหลังจากตื่นนอน
4. หลีกเลี่ยงการทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่มีอาการป่วย
คงไม่มีใครอยากติดโรคหวัด หรือโรคติดต่อต่างๆจากเพื่อนร่วมงานแน่นอน หากเห็นว่าเพื่อนร่วมงาน ไม่สบาย ควรแนะนำให้เค้าพักผ่อนอยู่บ้านหรือไปพบแพทย์เพื่อรักษา การหลีกเลี่ยงเพื่อนร่วมงานที่มีอาการป่วยไม่ได้หมายความว่าจะต้องรังเกียจ เพื่อนร่วมงานที่ป่วย แต่เป็นการแนะนำให้เขาพักผ่อนหรือพบแพทย์จะดีกว่า
5. ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
การชงกาแฟดื่มในที่ทำงานสามารถช่วยให้ท่านหายง่วงนอนขึ้นมาได้ แต่การดื่มกาแฟมากๆก็ไม่ดีต่อสุขภาพ ของท่านเช่นกัน การลุกเดินไปเติมน้ำเปล่ามาดื่มเป็นประจำเป็นการช่วยให้ท่านได้ขยับตัวจาก ท่านั่งเดิมๆ แก้ง่วง ไปในตัว และยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีมากขึ้น และที่สำคัญการดื่มน้ำสะอาดเกิน 8 แก้วต่อวัน สามารถช่วยให้ท่านมีสุขภาพดีได้
6. พยายามเปลี่ยนท่าทางการทำงานบ่อยๆ
หากท่านรู้สึกเหนื่อยหรือเพลียจากการนั่งทำงานนานๆ ควรลุกเดินไปข้างนอกบ้าง หรือพยายามบิดตัวเปลี่ยนท่าทางในการนั่งบ่อยๆ การหลับตา 5-10 วินาทีพร้อมเปลี่ยนท่าทางในการนั่งบ่อยๆ เป็นการพักระหว่างการนั่งทำงานได้ดีทีเดียว
7. ใช้สิทธิในการลาพักร้อนให้เกิดประโยชน์
การหยุดพักเรื่องงาน และไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆและลืมเรื่องงานไปให้หมด เป็นการช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี และการทำงานก็จะดีขึ้นหลังจากท่านได้พักผ่อนจากความเครียด
8. เลิกสูบบุหรี่
ทุกท่านคงทราบกันดีแล้วว่าการสูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ การสูบบุหรี่ในช่วงเวลาพักเป็นประจำ เมื่อสะสมเป็นเวลานาน ก็จะทำให้สุขภาพของท่านแย่ลงมากถ้าเทียบกับคนที่ไม่สูบบุหรี่ และสารนิโคตินจริงๆแล้วมาฤทธิ์ที่เพิ่มความเครียดให้กับร่างกายและสมอง มิได้ช่วยคลายความเครียดได้แต่อย่างใด
การรักษาสุขอนามัยในสถานที่ทำงาน ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิบัติงาน ถ้าเรามีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี เราก็จะทำงานอย่างมีความสุขตามไปด้วย
ที่มา : 108health.com
1. ล้างมือบ่อยๆ
ล้างมือบ่อยๆ หมายถึงการล้างมือทุกครั้งหลังจากเข้าห้องน้ำ ก่อนรับประทานอาหารเที่ยง หรือในเวลาที่มือของท่านเปื้อนสิ่งต่างๆจากการทำงาน และควรมีเจลล้างมือติดไว้ที่โต๊ะของท่านเพื่อใช้ในการทำความสะอาดมือ
2. ทำความสะอาดโต๊ะทำงานและอุปกรณ์ต่างๆเป็นประจำ
การทำความสะอาดโทรศัพท์, คอมพิวเตอร์, คีย์บอร์ดและสิ่งของต่างๆบนโต๊ะทำงานของท่าน รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ท่านใช้ เป็นการฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆที่สะสมอยู่บนอุปกรณ์เหล่านั้น
3. รับประทานอาหารครบ 3 มื้อ
อาหารเช้าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกๆคน ผู้ที่ต้องรีบตื่นมาทำงานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรับประทานอาหารเช้า ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงการอดอาหารเช้าเพื่อลดน้ำหนักก็เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ควรจัดหาเมนูอาหารเช้าง่ายๆที่ท่านรับประทานได้สะดวก เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารชดเชยหลังจากตื่นนอน
4. หลีกเลี่ยงการทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่มีอาการป่วย
คงไม่มีใครอยากติดโรคหวัด หรือโรคติดต่อต่างๆจากเพื่อนร่วมงานแน่นอน หากเห็นว่าเพื่อนร่วมงาน ไม่สบาย ควรแนะนำให้เค้าพักผ่อนอยู่บ้านหรือไปพบแพทย์เพื่อรักษา การหลีกเลี่ยงเพื่อนร่วมงานที่มีอาการป่วยไม่ได้หมายความว่าจะต้องรังเกียจ เพื่อนร่วมงานที่ป่วย แต่เป็นการแนะนำให้เขาพักผ่อนหรือพบแพทย์จะดีกว่า
5. ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
การชงกาแฟดื่มในที่ทำงานสามารถช่วยให้ท่านหายง่วงนอนขึ้นมาได้ แต่การดื่มกาแฟมากๆก็ไม่ดีต่อสุขภาพ ของท่านเช่นกัน การลุกเดินไปเติมน้ำเปล่ามาดื่มเป็นประจำเป็นการช่วยให้ท่านได้ขยับตัวจาก ท่านั่งเดิมๆ แก้ง่วง ไปในตัว และยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีมากขึ้น และที่สำคัญการดื่มน้ำสะอาดเกิน 8 แก้วต่อวัน สามารถช่วยให้ท่านมีสุขภาพดีได้
6. พยายามเปลี่ยนท่าทางการทำงานบ่อยๆ
หากท่านรู้สึกเหนื่อยหรือเพลียจากการนั่งทำงานนานๆ ควรลุกเดินไปข้างนอกบ้าง หรือพยายามบิดตัวเปลี่ยนท่าทางในการนั่งบ่อยๆ การหลับตา 5-10 วินาทีพร้อมเปลี่ยนท่าทางในการนั่งบ่อยๆ เป็นการพักระหว่างการนั่งทำงานได้ดีทีเดียว
7. ใช้สิทธิในการลาพักร้อนให้เกิดประโยชน์
การหยุดพักเรื่องงาน และไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆและลืมเรื่องงานไปให้หมด เป็นการช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี และการทำงานก็จะดีขึ้นหลังจากท่านได้พักผ่อนจากความเครียด
8. เลิกสูบบุหรี่
ทุกท่านคงทราบกันดีแล้วว่าการสูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ การสูบบุหรี่ในช่วงเวลาพักเป็นประจำ เมื่อสะสมเป็นเวลานาน ก็จะทำให้สุขภาพของท่านแย่ลงมากถ้าเทียบกับคนที่ไม่สูบบุหรี่ และสารนิโคตินจริงๆแล้วมาฤทธิ์ที่เพิ่มความเครียดให้กับร่างกายและสมอง มิได้ช่วยคลายความเครียดได้แต่อย่างใด
การรักษาสุขอนามัยในสถานที่ทำงาน ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิบัติงาน ถ้าเรามีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี เราก็จะทำงานอย่างมีความสุขตามไปด้วย
ที่มา : 108health.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)